ประเภทของ ETF แบ่งตามประเภท Investment Style
การแบ่งประเภท ETF ตาม Investment Style แบ่งตามกลยุทธ์การลงทุนที่ ETF ใช้ในการคัดเลือกสินทรัพย์หรือจัดการพอร์ต โดยแต่ละกลยุทธ์มีเป้าหมายและลักษณะเฉพาะที่เหมาะกับนักลงทุนที่มีเป้าหมายและความเสี่ยงที่แตกต่างกัน ดังนี้:
1. 130/30 ETF
- ความหมาย: ใช้กลยุทธ์ที่ลงทุนหุ้นที่คาดว่าจะเพิ่มมูลค่า (130%) และขายหุ้นที่คาดว่าจะลดมูลค่า (30%) เพื่อเพิ่มโอกาสในการสร้างผลตอบแทน
- คุณสมบัติ: มีความเสี่ยงสูงและต้องการการจัดการเชิงกลยุทธ์ เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ยอมรับความเสี่ยงได้สูง
2. Aggressive Growth ETF
- ความหมาย: เน้นลงทุนในหุ้นที่มีการเติบโตสูงมากและมีศักยภาพในการสร้างผลตอบแทนสูง
- คุณสมบัติ: ความเสี่ยงสูงและมีความผันผวน เหมาะสำหรับนักลงทุนที่มองหาการเติบโตอย่างรวดเร็ว
3. BuyWrite ETF
- ความหมาย: ลงทุนโดยการซื้อหุ้นและขายออปชั่น Call บนหุ้นที่ถือครองเพื่อสร้างรายได้จากค่าพรีเมียม
- คุณสมบัติ: ช่วยเพิ่มรายได้จากค่าพรีเมียมออปชั่น เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการสร้างรายได้เพิ่มเติมจากพอร์ต
4. Consistent Growth ETF
- ความหมาย: เน้นลงทุนในหุ้นที่มีประวัติการเติบโตอย่างสม่ำเสมอ
- คุณสมบัติ: มักเป็นหุ้นของบริษัทที่มีความมั่นคง เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการการเติบโตระยะยาวและเสถียรภาพ
5. Contrarian ETF
- ความหมาย: ลงทุนในหุ้นที่ไม่เป็นที่นิยมในตลาด โดยคาดหวังว่าราคาหุ้นจะฟื้นตัว
- คุณสมบัติ: มีความเสี่ยงสูง เน้นเก็งกำไรจากการเปลี่ยนแปลงของตลาด เหมาะกับนักลงทุนที่มีมุมมองตรงข้ามกับตลาด
6. Currency-hedged ETF
- ความหมาย: ป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนสำหรับนักลงทุนต่างชาติ
- คุณสมบัติ: ช่วยลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยน เหมาะกับการลงทุนในต่างประเทศ
7. Dividend ETF
- ความหมาย: ลงทุนในหุ้นที่ให้เงินปันผลสูง
- คุณสมบัติ: เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการรายได้ประจำจากการลงทุน โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการรายได้แบบต่อเนื่อง
8. Growth At A Reasonable Price (GARP) ETF
- ความหมาย: เน้นลงทุนในหุ้นที่มีการเติบโตสูงและราคาไม่สูงเกินไป
- คุณสมบัติ: เป็นการลงทุนที่ผสมผสานระหว่างการเติบโตและมูลค่า เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการสมดุลระหว่างการเติบโตและความเสี่ยง
9. Guru Replication ETF
- ความหมาย: เลียนแบบการลงทุนของนักลงทุนชื่อดัง เช่น วอร์เรน บัฟเฟตต์ หรือ เรย์ ดาลิโอ
- คุณสมบัติ: เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการนำกลยุทธ์ของนักลงทุนชั้นนำมาใช้ในพอร์ตของตน
10. High Beta ETF
- ความหมาย: ลงทุนในหุ้นที่มีค่าเบต้าสูง ซึ่งผันผวนสูงตามตลาด
- คุณสมบัติ: เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการเก็งกำไรและรับความเสี่ยงสูงได้
11. High Momentum ETF
- ความหมาย: ลงทุนในหุ้นที่มีแนวโน้มขาขึ้นแรง
- คุณสมบัติ: เน้นเก็งกำไรตามทิศทางแนวโน้มของตลาด เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนสูงในช่วงตลาดขาขึ้น
12. Low Beta ETF
- ความหมาย: ลงทุนในหุ้นที่มีค่าเบต้าต่ำ ซึ่งผันผวนต่ำกว่าตลาด
- คุณสมบัติ: เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการลดความผันผวนของพอร์ตและเน้นความมั่นคง
13. Low Carbon ETF
- ความหมาย: ลงทุนในบริษัทที่มีการปล่อยคาร์บอนต่ำ เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม
- คุณสมบัติ: ช่วยลดความเสี่ยงจากกฎระเบียบด้านสิ่งแวดล้อมและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
14. Low P/E ETF
- ความหมาย: ลงทุนในหุ้นที่มีอัตราส่วนราคาต่อกำไร (P/E) ต่ำ
- คุณสมบัติ: เหมาะสำหรับนักลงทุนที่มองหาหุ้นราคาถูกและมีโอกาสการเติบโตในอนาคต
15. Low Valuation ETF
- ความหมาย: ลงทุนในหุ้นที่มีมูลค่าต่ำเมื่อเปรียบเทียบกับราคาตลาด
- คุณสมบัติ: เหมาะสำหรับนักลงทุนที่เน้นมูลค่าและต้องการลงทุนในหุ้นที่มีราคาไม่สูงเกินไป
16. Low Volatility ETF
- ความหมาย: ลงทุนในหุ้นที่มีความผันผวนต่ำ
- คุณสมบัติ: เหมาะสำหรับนักลงทุนที่เน้นความมั่นคงและลดความเสี่ยงในพอร์ตการลงทุน
17. Quant-based ETF
- ความหมาย: ใช้กลยุทธ์การลงทุนที่ขับเคลื่อนด้วยแบบจำลองเชิงปริมาณ (Quantitative Models)
- คุณสมบัติ: เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการกลยุทธ์การลงทุนอัตโนมัติที่ใช้ข้อมูลและอัลกอริธึม
18. Socially Responsible ETF
- ความหมาย: ลงทุนในบริษัทที่มีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม
- คุณสมบัติ: เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ให้ความสำคัญกับการลงทุนที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมและโลก
19. Volatility Hedged Equity ETF
- ความหมาย: ลงทุนในหุ้นพร้อมกลยุทธ์ป้องกันความเสี่ยงจากความผันผวน
- คุณสมบัติ: ช่วยลดความเสี่ยงในตลาดที่มีความผันผวนสูง เหมาะสำหรับการลงทุนในตลาดที่คาดว่าจะมีความไม่แน่นอน
20. Wide Moat ETF
- ความหมาย: ลงทุนในหุ้นของบริษัทที่มีข้อได้เปรียบในการแข่งขันสูง (Economic Moat)
- คุณสมบัติ: เหมาะสำหรับการลงทุนระยะยาว โดยเน้นในบริษัทที่มีความสามารถในการปกป้องตลาดของตนเองจากคู่แข่ง
สรุป
การแบ่งประเภท ETF ตาม Investment Style เหมาะสำหรับการเลือกกลยุทธ์การลงทุนที่ตอบสนองต่อเป้าหมายและความเสี่ยงของนักลงทุน โดยมีกลยุทธ์ที่เน้นการเติบโต มูลค่า ความมั่นคง การป้องกันความเสี่ยง และการลงทุนที่มีความรับผิดชอบต่อสังคม